The Thai translation has been delayed because of Covid but will appear in March 2022 with Bodthajorn Books.
วาเนสซาและเวอร์จิเนีย
วริตตา ศรีรัตนา ผู้แปล
๑
ฉันนอนแผ่หลาบนผืนหญ้า โธบีนอนแผ่อยู่ข้างฉัน สีข้างอุ่น ๆ ของเขาแนบชิดกาย ฉันลืมตามองหมู่เมฆ กวาดตาวาดเค้าโครงบรรดายักษียักษา เหลือบร่างโครงสร้างปราสาท ณ เบื้องบน และจ้องแกะรอยสัตว์มีปักอันน่ามหัศจรรย์ที่กำลังไล่ล่ากันข้ามผืนฟ้า พลันฉันรู้สึกว่ามีอะไรมาเขี่ยจี้แก้มเบา ๆ จึงฉุดตัวขึ้นมา ทิ้งน้ำหนักบนข้อศอกทั้งสองข้างที่ยันค้ำพื้นไว้ มือคว้าขวับก้านหญ้าในมือของโธบี โธบีหลีกตัวหนีฉันอย่างรวดเร็ว และไม่ทันไร เราสองต่างทุบตีหยอกล้อกันไปมา จนกระทั่งฉันแยกไม่ได้ว่าท่อนแขนท่อนขาที่พันกันกลิ้งเกลือกบนพรมหญ้านั้นเป็นของฉันหรือของโธบีกันแน่ ในที่สุดเมื่อเราหยุดเล่นหยอกกัน ใบหน้าของโธบีก็มาเกยตื้นอยู่บนผืนอกของฉัน ซี่โครงฉันรับรู้ได้ถึงน้ำหนักหัวของโธบี ผมของเขาต้องประกายแสงแดดเป็นสีทอง และเมื่อฉันแหงนมองไปยังเบื้องบน ฉันเห็นเปลวเพลิงแสงขาวแห่งเทวดา ฉันเกี่ยววงแขนรอบลำคอของโธบี นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ฉันเข้าใจว่าความสุขที่แท้จริงนั้นเป็นเช่นไร
เงามืดเคลื่อนบังแสง เทวดาของฉันสลายตัว ฉันเห็นนัยน์ตาสีเขียวเหมือนงูคู่ที่คุ้นเคย เธอต้องการแทรกตัวเข้ามานอนแผ่ระหว่างเราสอง และเมื่อฉันดันเธอผู้ไม่พึงประสงค์ออกไป เธอก็รีบดีดตัวลุกขึ้นและแทรกเสียงกระซิบเข้าไปในใบหูของโธบี เขาแหงนหน้ามองเธอ ฉันอ่านสีหน้าอาการบนใบหน้าแล้วรู้ทันทีว่าคำพูดของเธอได้เข้ายึดครองตัวเขาในที่สุด ฉันรู้ว่าเธอจะต้องล่อหลอกให้เขาไปจากฉันด้วยแผนการอันบ้าระห่ำ ฉันม้วนตัวลงไปซุกหน้ากับผืนหญ้า เรียวใบหญ้าต่างทิ่มตำเปลือกตาทั้งสองข้าง ฉันตั้งใจหลับตาเพ่งสมาธิไปยังปลายอันแหลมคมของมัน และเมื่อพลิกตัวกลับขึ้นมาอีกครั้ง เธอกับโธบีก็ได้หายตัวไปแล้ว ฉันลุกนั่ง เห็นโธบียืนละล้าละลังบนขอบรั้วกั้นเขตสวน มือสองข้างคว้ากุมกิ่งไม้เหนือหัวเพื่อทรงตัว ได้ยินเสียงเขาเปล่งเสียงร้องด้วยความระห่ำปนกลัว ฉันอยากร้องตะโกนบอกให้เขากลับมาหยอกเล่นกับฉันบนผืนหญ้าอย่างเคย แต่แล้วฉันเห็นมือเธอคว้าไต่ขาของโธบีก่อนดึงตัวขึ้นไปยืนละล้าละลังอยู่ข้าง ๆ เขา เธอตัวแอ่นเอนไปชั่วขณะก่อนหาจุดทรงตัวได้จนนิ่ง ฉันรู้ว่าในไม่กี่อึดใจเธอจะหันมาโบกมือให้ฉัน ส่งสัญญาณแห่งชัยชนะ ฉันจึงล้มตัวลงนอนไปบนพรมหญ้า ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น ฆ่ากันให้ตายดีกว่ายอมให้เธอเห็นน้ำตา